• ทางเลือกใหม่ในการรักษามะเร็งเต้านม: New Regimen for Breast Cancer

    ทางเลือกใหม่ในการรักษามะเร็งเต้านม: New Regimen for Breast Cancer

     

    มะเร็งเต้านมเป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้หญิงทั่วโลก และในประเทศไทยเองก็เป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่มีจำนวนผู้ป่วยมากที่สุด การรักษามะเร็งเต้านมในปัจจุบันได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง

    ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด การฉายรังสี การใช้ยาเคมีบำบัด และการรักษาด้วยยาเป้าหมาย (Targeted Therapy) อย่างไรก็ตาม การวิจัยและพัฒนาทางการแพทย์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้เปิดโอกาสให้เกิดทางเลือกใหม่ในการรักษามะเร็งเต้านมที่มีประสิทธิภาพและผลข้างเคียงที่ลดลง  

     

    ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) 

    การรักษามะเร็งเต้านม หนึ่งในแนวทางการรักษาที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในปัจจุบันคือภูมิคุ้มกันบำบัด ซึ่งเป็นการใช้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเพื่อต่อสู้กับมะเร็ง การรักษาวิธีนี้มีการใช้ยากลุ่ม Immune Checkpoint Inhibitors เช่น ยาที่กระตุ้นให้เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถจดจำและทำลายเซลล์มะเร็งได้โดยไม่ทำลายเซลล์ปกติในร่างกาย  

     

    ตัวอย่างที่สำคัญของยาภูมิคุ้มกันบำบัดที่ใช้รักษามะเร็งเต้านมคือยา Pembrolizumab ซึ่งได้แสดงผลลัพธ์ที่น่าพอใจในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมชนิด Triple-Negative Breast Cancer (TNBC) ซึ่งเป็นมะเร็งชนิดที่ดื้อต่อยาเคมีบำบัดและยาเป้าหมาย  

     

    ยาต้านแอนโดรเจน (Anti-androgen Therapy)

    สำหรับมะเร็งเต้านมชนิด Hormone Receptor-Positive (HR+) การรักษาแบบใหม่ที่เน้นการยับยั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง มีการพัฒนา Selective Estrogen Receptor Degraders (SERDs)

    ซึ่งเป็นยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งและทำลายตัวรับเอสโตรเจนในเซลล์มะเร็งโดยตรง เช่น Fulvestrantหรือยาใหม่อย่าง Elacestrant

     

    การรักษาเฉพาะจุดด้วยนาโนเทคโนโลยี (Nanotechnology-Based Therapy) 

    นาโนเทคโนโลยีได้รับการประยุกต์ใช้ในวงการแพทย์อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการรักษามะเร็งเต้านม ยานาโนบำบัดช่วยนำส่งยาเคมีบำบัดไปยังเซลล์มะเร็งโดยตรง ลดผลข้างเคียงที่เกิดกับเซลล์ปกติ ตัวอย่างเช่น **Liposome-Based Drug Delivery** ที่สามารถปลดปล่อยยาในบริเวณที่มีเนื้องอกได้อย่างแม่นยำ  

     

    การตรวจพันธุกรรมและการรักษาแบบจำเพาะเจาะจง (Genetic Testing and Personalized Medicine) 

    ในปัจจุบัน การตรวจพันธุกรรมเพื่อหาการกลายพันธุ์ของยีนที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง เช่น BRCA1 และ BRCA2 ช่วยให้แพทย์สามารถออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยรายบุคคล การใช้ยา PARP Inhibitors เช่น Olaparib และ Talazoparib สำหรับผู้ป่วยที่มีการกลายพันธุ์ของยีน BRCA ได้แสดงผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยม  

     

    การรักษาด้วยยาปฏิรูปใหม่ (Biosimilars and Biologics)

    ยาเป้าหมายชีวภาพ (Biologics) เช่น Trastuzumab สำหรับมะเร็งเต้านมชนิด HER2-Positive ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยาชีววัตถุคล้ายคลึง (Biosimilars) ซึ่งเป็นยาที่มีประสิทธิภาพและราคาถูกกว่ายาต้นแบบ  

     

    การผสมผสานการรักษา (Combination Therapy) 

    แนวทางใหม่ในการรักษาคือการใช้หลายวิธีร่วมกัน เช่น การใช้ภูมิคุ้มกันบำบัดร่วมกับเคมีบำบัด หรือการรักษาด้วยยาเป้าหมายร่วมกับการฉายรังสี แนวทางนี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการหายขาดของผู้ป่วย  

     

    ทางเลือกใหม่ในการรักษามะเร็งเต้านมไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา แต่ยังลดผลข้างเคียงและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมีนัยสำคัญ

    การวินิจฉัยที่แม่นยำร่วมกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ช่วยให้แพทย์สามารถเลือกแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย อนาคตของการรักษามะเร็งเต้านมจึงมีความหวังมากขึ้นจากความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่ไม่หยุดยั้ง

     

     

    ผู้สนับสนุนหลักโดย  เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก

  • ความสำคัญของ พระแม่คงคา ในทางศาสนาและวัฒนธรรม 

    ความสำคัญของ พระแม่คงคา พระแม่คงคา  เป็นเทพีที่ได้รับการเคารพอย่างสูงในศาสนาฮินดู ทรงเป็นเทพีประจำแม่น้ำคงคา ซึ่งถูกยกย่องให้เป็นสายน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในอินเดีย ความศรัทธาต่อพระแม่คงคาไม่ได้จำกัดอยู่เพียงมิติทางศาสนา แต่ยังสอดแทรกอยู่ในวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวอินเดียมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

    ความเชื่อทางศาสนาเกี่ยวกับพระแม่คงคา

    1. การชำระล้างบาป  

       ตามความเชื่อของชาวฮินดู พระแม่คงคาทรงมีอำนาจในการชำระล้างบาปทั้งทางกายและจิตใจ น้ำจากแม่น้ำคงคาถือเป็น “น้ำศักดิ์สิทธิ์” หรือ “อัมฤต” (Amrita) ซึ่งสามารถล้างบาปและช่วยให้ผู้ที่ได้อาบน้ำในแม่น้ำนี้สามารถหลุดพ้นจากกรรมเก่าได้  

     

    1. การปลดปล่อยดวงวิญญาณ 

       ชาวฮินดูเชื่อว่าหากบุคคลใดได้เสียชีวิตและได้รับการเผาศพ ณ ริมแม่น้ำคงคา โดยเฉพาะที่เมืองพาราณสี (Varanasi) ดวงวิญญาณของเขาจะได้รับการปลดปล่อยจากวัฏจักรแห่งการเกิดและตาย (Samsara) และไปสู่โมกษะ (Moksha) ซึ่งเป็นภาวะแห่งการหลุดพ้นสูงสุด  

     

    1. พระแม่คงคาคือพระแม่แห่งชีวิต  

       เนื่องจากแม่น้ำคงคาหล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนมากมาย พระแม่คงคาจึงถือเป็นสัญลักษณ์ของ “มารดาผู้ให้ชีวิต” และเป็นเทพีที่คอยคุ้มครองและให้ความอุดมสมบูรณ์แก่โลก  

     

    ความสำคัญทางวัฒนธรรม 

    1. พิธีกรรมและเทศกาลที่เกี่ยวข้องกับพระแม่คงคา  

       – พิธีคงคาอารตี (Ganga Aarti) เป็นพิธีกรรมบูชาพระแม่คงคาที่จัดขึ้นทุกวันในเมืองศักดิ์สิทธิ์ เช่น พาราณสี หริทวาร (Haridwar) และริชีเคศ (Rishikesh) พิธีนี้ประกอบด้วยการสวดมนต์ จุดตะเกียงไฟ และลอยดอกไม้ลงแม่น้ำเพื่อถวายแด่พระแม่คงคา  

       – เทศกาลกุมภเมลา (Kumbh Mela) เป็นเทศกาลศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผู้แสวงบุญนับล้านมารวมตัวกันเพื่ออาบน้ำในแม่น้ำคงคาและแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ เพื่อชำระล้างบาป  

     

    1. บทบาทของพระแม่คงคาในวิถีชีวิตของชาวอินเดีย 

       แม่น้ำคงคาไม่ได้เป็นเพียงแหล่งน้ำสำหรับดื่มและเกษตรกรรพภๅ แต่ยังเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางศาสนาและสังคม ชาวอินเดียมักจะเก็บน้ำจากแม่น้ำคงคาไว้ที่บ้านและใช้ในพิธีกรรมสำคัญ เช่น พิธีแต่งงาน พิธีเผาศพ และพิธีบูชาเทพเจ้า  

     

    1. ศิลปะ วรรณกรรม และตำนานที่เกี่ยวข้องกับพระแม่คงคา  

       พระแม่คงคามีบทบาทสำคัญในวรรณคดีฮินดู เช่น มหาภารตะ รามายณะ และปุราณะ ตำนานเกี่ยวกับพระแม่คงคา เช่น เรื่องการเสด็จลงมายังโลกของพระแม่คงคาเพื่อชำระล้างบาปของมนุษย์ เป็นเรื่องราวที่แพร่หลายและถูกถ่ายทอดในศิลปะ ภาพวาด และประติมากรรมทางศาสนา  

     

    ความสำคัญของพระแม่คงคาในยุคปัจจุบัน 

    แม้ว่าความศรัทธาในพระแม่คงคาจะยังคงแข็งแกร่งในสังคมอินเดีย แต่ในยุคปัจจุบัน แม่น้ำคงคาต้องเผชิญกับปัญหามลพิษจากอุตสาหกรรมและขยะจากมนุษย์ ทำให้รัฐบาลอินเดียต้องดำเนินโครงการฟื้นฟูแม่น้ำคงคา เช่น โครงการทำความสะอาดแม่น้ำคงคา (Namami Gange Programme)เพื่อปกป้องและรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของแม่น้ำ  

     

    สนับสนุนโดย    คาสิโนเวียดนาม

  • พ่อเลี้ยงโหด ตีลูกเลี้ยงวัย 1 ขวบตายคามือ

    พ่อเลี้ยงโหด ตีลูกเลี้ยงวัย 1 ขวบตายคามือ

    สลด! พ่อเลี้ยงโหด หึงโหดคิดว่าเมียมีกิ๊ก-ยังคิดถึงผัวเก่า ตีลูกเลี้ยงวัย 1 ขวบตายคามือ 

    เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 เกิดเหตุสลดขึ้นที่อู่ซ่อมรถบรรทุก 10 ล้อ ในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลบางพระ จังหวัดชลบุรี เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีพ่อเลี้ยงก่อเหตุทำร้ายลูกเลี้ยงวัยเพียง 1 ขวบเศษจนเสียชีวิตภายในห้องพัก จึงรีบรุดไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุทันที  

     

    เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ภายในห้องพักของพนักงานอู่ซ่อมรถบรรทุกดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้พบศพเด็กหญิงวัย 1 ขวบ 11 เดือน สภาพร่างกายเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและบาดแผลหลายแห่งตามร่างกาย

    โดยเฉพาะที่บริเวณใบหน้าที่ปรากฏร่องรอยจากการถูกทำร้ายอย่างรุนแรง ใกล้กับศพของเด็กหญิง พบแม่ของผู้ตายคือ **น.ส.วรางคณา เกียรติประสงค์** อายุ 25 ปี กำลังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจอย่างหนัก  

     

    น.ส.วรางคณา เปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้คือ **นายวรกฤต หรือเกม จิตประสงค์** อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของเด็กหญิงผู้เสียชีวิต

    โดยสาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้คาดว่าเกิดจากความหึงหวงรุนแรง เนื่องจากนายวรกฤตมีความระแวงว่าภรรยาของตนกำลังมีความสัมพันธ์กับชายอื่น อีกทั้งยังเชื่อว่าภรรยาอาจคิดถึงอดีตสามีเก่าของเธอ  

     

    ก่อนเกิดเหตุ นายวรกฤตได้เกิดการทะเลาะกับ น.ส.วรางคณา อย่างรุนแรงในเรื่องความสัมพันธ์ดังกล่าว หลังจากนั้นจึงได้ระบายความโกรธด้วยการทำร้ายเด็กหญิงผู้เป็นลูกติดของภรรยา โดยใช้กำลังทุบตีเด็กอย่างรุนแรงหลายครั้ง จนกระทั่งเด็กทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตคาที่  

     

    หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายวรกฤตไปสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรศรีราชา (สภ.ศรีราชา)

    เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยขณะนี้นายวรกฤตยังคงให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีเจตนาฆ่าเด็ก และอ้างว่าเป็นเพียงการทำโทษเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อคำให้การ และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด  

     

    ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายแก่ผู้ต้องหา พร้อมส่งร่างของเด็กหญิงไปชันสูตรเพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ขณะที่แม่ของเด็กหญิงผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ในอาการช็อกและโศกเศร้า โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลสภาพจิตใจ  

     

    เหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนี้สร้างความเศร้าเสียใจและความสลดใจให้กับคนในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพฤติกรรมของพ่อเลี้ยงรายนี้โหดร้ายเกินกว่าที่ใครจะรับได้ หลายคนหวังว่ากระบวนการยุติธรรมจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต  

     

    เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมไทย และต้องการการแก้ไขอย่างจริงจังจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐ องค์กรเอกชน หรือแม้แต่คนในสังคมที่ต้องช่วยกันเฝ้าระวังและรายงานหากพบเหตุความรุนแรงในครอบครัว 

     

    สนับสนุนโดย  หูตึงรักษาหายไหม

  • วิเคราะห์เหตุการณ์ คริสเตียน อีริคเซ่น วูบคาสนามศึกยูโร 2020

    วิเคราะห์เหตุการณ์ คริสเตียน อีริคเซ่น วูบคาสนามศึกยูโร 2020

    วิเคราะห์เหตุการณ์ คริสเตียน อีริคเซ่น วูบคาสนามศึกยูโร 2020 และการช่วยชีวิตในสถานการณ์ฉุกเฉิน

     

    เหตุการณ์ที่คริสเตียน อีริคเซ่น นักฟุตบอลทีมชาติเดนมาร์กหมดสติระหว่างการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 นัดแรกกับฟินแลนด์ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2564 ได้สร้างความตกตะลึงและเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลก

    เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแค่แสดงถึงความสำคัญของสุขภาพนักกีฬาเท่านั้น แต่ยังชี้ให้เห็นถึงการตอบสนองที่รวดเร็วและการปฏิบัติการช่วยชีวิตที่ถูกต้อง ซึ่งส่งผลให้สามารถช่วยชีวิตนักฟุตบอลรายนี้ได้ทันเวลา

     

    เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่ออีริคเซ่นหมดสติล้มลงกลางสนามโดยไม่มีการปะทะกับผู้เล่นคนอื่น ซึ่งเป็นอาการที่บ่งชี้ว่าอาจเกิดจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน  

    สาเหตุของภาวะนี้อาจเกิดจากปัญหาทางสุขภาพที่แอบแฝง เช่น โรคหัวใจที่ไม่แสดงอาการมาก่อน  หรือการทำงานของหัวใจที่ผิดปกติในระดับไฟฟ้าหัวใจ 

     

    นักกีฬามักต้องเผชิญกับการใช้ร่างกายหนักในระดับสูงเป็นเวลานาน ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ แม้ว่านักกีฬาจะผ่านการตรวจร่างกายอย่างละเอียดก่อนการแข่งขันก็ตาม บางครั้งความผิดปกติในระบบหัวใจอาจไม่ถูกตรวจพบในการตรวจสุขภาพเบื้องต้น ซึ่งทำให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า

    หลังจากอีริคเซ่นล้มลงกลางสนาม การตอบสนองอย่างรวดเร็วของผู้ตัดสิน เพื่อนร่วมทีม และหน่วยพยาบาลถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยชีวิตเขาได้ทันเวลา โดยมีขั้นตอนการช่วยเหลือดังนี้:

     

    1. หยุดเกมและแจ้งหน่วยพยาบาล  

       ผู้ตัดสินหยุดการแข่งขันทันทีและแจ้งทีมแพทย์เข้าสนามอย่างรวดเร็ว เพื่อนร่วมทีมก็เข้ามาปกป้องพื้นที่รอบตัวอีริคเซ่นเพื่อให้หน่วยพยาบาลทำงานได้สะดวก

     

    1. การตรวจสอบชีพจรและการเริ่ม CPR 

       เมื่อพบว่าอีริคเซ่นไม่มีชีพจร ทีมแพทย์ได้เริ่มทำการปั๊มหัวใจ (CPR) ทันที การ CPR เป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในกรณีหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เพราะช่วยให้เลือดและออกซิเจนยังคงไหลเวียนไปยังสมองและอวัยวะสำคัญในระหว่างที่รอเครื่องกระตุกหัวใจ (AED)

     

    1. การใช้เครื่องกระตุกหัวใจ (AED)

      หลังจาก CPR ทีมแพทย์ได้ใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า (Automated External Defibrillator: AED) ซึ่งช่วยฟื้นฟูจังหวะการเต้นของหัวใจให้กลับมาเป็นปกติ การใช้งาน AED อย่างถูกต้องและทันเวลามีบทบาทสำคัญในการเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วย

     

    1. การส่งตัวไปโรงพยาบาล 

       หลังจากอีริคเซ่นเริ่มตอบสนอง เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจสอบและรักษาอย่างละเอียด ซึ่งช่วยยืนยันว่าเขาอยู่ในภาวะปลอดภัยในเวลาต่อมา

     

    เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการมีทีมแพทย์และอุปกรณ์ช่วยชีวิตในสนามกีฬา เช่น เครื่อง AED ซึ่งสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ การฝึกอบรม CPR และการใช้ AED ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ตัดสิน โค้ช และนักกีฬา ยังเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ทุกคนพร้อมตอบสนองในกรณีฉุกเฉิน

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคริสเตียน อีริคเซ่นเป็นเครื่องเตือนใจถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมในสถานการณ์ฉุกเฉิน ความรวดเร็วและความถูกต้องในการตอบสนองของทีมแพทย์ในสนามมีบทบาทสำคัญที่ช่วยชีวิตเขาได้ การฝึกอบรม CPR และการใช้ AED เป็นสิ่งที่ทุกภาคส่วนควรให้ความสำคัญ ทั้งในสนามกีฬาและในชีวิตประจำวัน

     

    สนับสนุนเนื้อหาโดย  เครื่องช่วยฟังแบบไหนดี

  • 3 เคล็ดลับป้องกันเด็กติดเกมช่วงปิดเทอม

    3 เคล็ดลับป้องกันเด็กติดเกมช่วงปิดเทอม

    3 เคล็ดลับป้องกันเด็กติดเกมช่วงปิดเทอม ช่วงปิดเทอม เป็นช่วงที่เด็ก ๆ ส่วนใหญ่นั้นมักที่จะมีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น จึงทำให้เด็กบางคนอาจรู้สึกเบื่อ หรือเครียดได้ง่าย

    จึงมักที่จะมองหากิจกรรมเพื่อเป็นตัวช่วยในการบรรเทาความเครียด ซึ่งนั่นก็คือ การเล่นเกม เพราะเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สามารถช่วยบรรเทาความเครียดได้ แถมยังสามารถทำให้เด็ก ๆ ส่วนใหญ่นั้นมีความสนุกสนานอีกด้วย

     

    ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการเล่นเกมสำหรับเด็กนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเด็กบางคนอาจจะอยากเติบโตไปเพื่อทำอาชีพเกี่ยวกับการเล่นเกม จึงมักที่จะหมั่นฝึกฝน และเพิ่มทักษะทางด้านการเล่นเกมอยู่เสมอ

    แต่รู้หรือไม่ว่าการเล่นเกมถึงแม้จะเป็นกิจกรรมที่กำลังมาแรงและเป็นที่นิยมมากขนาดไหนก็ตาม ก็มักเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำเอาผู้ปกครองหลาย ๆ ท่านนั้นหนักใจอยู่เสมอ

    เนื่องจากเด็กติดเกมมากเกินไป โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอม ซึ่งจะยิ่งทำให้เด็ก ๆ มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ดังนั้น ปัญหาเด็กติดเกมในช่วงปิดเทอม จึงเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่ผู้ปกครองหลายท่านมักจะมองหาวิธีในการแก้ไข

    ซึ่งวันนี้เราก็จะมาแนะนำเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถป้องกันเด็ก ๆ ไม่ให้เสพติดการเล่นเกมมากเกินไป ในช่วงปิดเทอม จะมีเคล็ดลับอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

     

     

    • การมองหากิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันได้

    หากผู้ปกครองคนไหนที่ไม่อยากให้เด็ก ๆ เสพดติการเล่นเกมในช่วงปิดเทอม การที่เรามองหากิจกรรมที่สามารถทำร่วมกับเด็ก ๆ ได้ ถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้เด็ก ๆ ไม่ให้ความสำคัญกับการเล่นเกมมาจนเกินไป แต่อาจจะมีเวลาออกไปทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว เพื่อสานสัมพันธ์ที่ดีมากขึ้น 

     

    • หลีกเลี่ยงการให้เด็กเล่นมือถือมากเกินไป

    แน่นอนว่าช่วงปิดเทอมจะเป็นช่วงที่เด็ก ๆ ส่วนใหญ่อาจจะมีเวลาว่างมากขึ้น จึงอาจทำให้บางคนนั้นมักที่จะมองหากิจกรรมเพื่อช่วยคลายเครียด ซึ่งนั่นก็คือการเล่นมือถือ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการผู้ปกครองปล่อยให้เด็กเล่นมือถือมากเกินไปนั้นนอกจากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย

    ยังอาจทำให้เด็ก ๆ เสพติดการเล่นเกมมากเกินไปได้เช่นกัน ฉะนั้น การแก้ไขปัญหาเลยก็คือ ควรที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กเล่นมือถือมากเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้เสพติดมือถือแล้ว ยังอาจเสพติดการเล่นเกมไปด้วย 

     

    • การกำหนดช่วงเวลาให้เหมาะสม

    ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้ผู้ปกครองสามารถควบคุมพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเด็ก ๆ ได้ในช่วงปิดเทอม แถมยังเป็นการฝึกวินัยให้กับเด็ก ๆ เพื่อไม่ให้มีพฤติกรรมการเสพติดการเล่นเกม และไม่ให้ความสำคัญกับการเล่นเกมมากไปกว่าการเรียนอีกด้วย

     

     

    สนับสนุนเนื้อเรื่องโดย  คาสิโนเวียดนาม

  • การปรับแก้บ้าน ที่อาจจะก่อให้เพื่อนบ้านของคุณรู้สึกไม่ชอบใจ

    การปรับแก้บ้าน ที่อาจจะก่อให้เพื่อนบ้านของคุณรู้สึกไม่ชอบใจ เวลาพวกเราคิดจะปรับแต่งบ้านนั้นอาจจะทำให้เพื่อนบ้านรู้สึกไม่สบอารมณ์ก็เป็นได้

    เนื่องด้วยบางโอกาสการปรับแก้บ้านบางทีอาจไปฝ่าฝืนความเป็นส่วนตัวของเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจจะทำให้เพื่อนบ้านไม่โอเคกับการกระทำนี้ โดยเหตุนั้นคุณต้องระวังถ้าหากคิดจะปรับปรุงแก้ไขบ้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขใน เรื่องตั้งแต่นี้ต่อไป

    1.การปรับปรุงแก้ไขบ้านที่ยังมิได้รับการอนุญาต

    การจะปรับปรุงแก้ไขบ้านนั้น คุณจำเป็นที่จะต้องขอจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวเนื่อง ถ้าเกิดคุณยังไร้ใบอนุญาตที่ถูก นอกเหนือจากการที่จะไม่ถูกกฎหมายแล้ว คุณอาจเผลอผ่านเส้นแบ่งของเพื่อนบ้านไปโดยไม่ได้คาดคิด

    โดยการขอนั้นควรจะมีเอกสาร หลักฐานต่างๆให้พร้อม โดยยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่คุณจะทำเพิ่มเติมอีก แล้วหลังจากนั้นส่งไปให้หน่วยงานที่รับผิดชอบใคร่ครวญ

    การขออย่างแม่นยำ ปฏิบัติตามขั้นตอนนอกเหนือจากการที่จะเกิดเรื่องความถูกต้องชัดเจนแล้ว คุณยังเชื่อมั่นได้ว่าสิ่งที่จะเพิ่มอีกนั้นไม่มีอันตราย เพื่อนบ้านหายห่วง

     

    2.เพิ่มเติมรั้วที่สูงเกินความจำเป็น

    เมื่อคิดจะทำรั้วจำต้องแน่ใจว่าคุณจะเลือกรั้วแบบไหน อยากความเป็นส่วนตัวมากน้อยแค่ไหน รวมถึงยังจะต้องนึกถึงความเชื่อมโยงกับเพื่อนบ้านของคุณด้วย ลองนึกภาพว่าถ้าเกิดเพื่อนบ้านของคุณทำรั้วเตี้ยๆสูงขึ้นมากยิ่งกว่าเอวน้อย

    แต่ว่าเมื่อคุณไปอยู่คุณกลับทำรั้วสูงมากมายเพื่อความเป็นส่วนตัวของคุณ แม้ว่าจะเป็นการทำอย่างแม่นยำ แต่ว่าลองนึกภาพว่าเพื่อนบ้านของคุณจะโกรธหรือไม่ ไม่เพียงแค่จะมองแปลก แม้กระนั้นแสงอาทิตย์ หรือลมที่จะพัดเข้ามาที่สวนหรือบ้านนั้นจำกัด นั้นอาจจะทำให้กำเนิดปัญหาจริงๆ

     

    3.แทนที่กิจกรรมสนามข้างหลังบ้านมาไว้ที่หน้าบ้าน

    ไม่ว่าจะเป็นสระ สนามเด็กเล่น อื่นๆอีกมากมาย โดยมากก็จะทำกันที่รอบๆข้างหลังบ้าน แต่ว่าถ้าหากคุณเปลี่ยนแปลงเอาสิ่งพวกนั้นมาไว้หน้าบ้าน คุณพอเพียงจะเข้าจิตใจใช่ไหมว่าเป็นทำไมที่เพื่อนบ้านของคุณจะรู้สึกไม่โอเค

     

    4.สี บ้านที่เด่นจนกระทั่งเกินความจำเป็น บางพื้นที่อาจมีการกำหนดสีของบ้านว่าควรจะเป็นสีอะไร หรือเปล่าควรที่จะใช้สีอะไร แต่ว่าไม่ใช่ทุกพื้นที่จะมีการระบุเฉดสีที่แจ่มแจ้ง ถ้าหากคุณมานะที่จะเป็นมิตรกับเพื่อนบ้านของคุณ คุณอาจจะต้องหลีกเลี่ยงสีที่สะดุดตาจนกระทั่งเหลือเกิน โดยให้เลือกสีที่กลมกลืนกับบ้านข้างหลังอื่นๆ

     

    5.การตัดต้นไม้ ถ้าคุณคิดจะตัดต้นไม้

    จำเป็นต้องไตร่ตรองอย่างระมัดระวังว่าต้นไม้นั้นเป็นสิทธ์ของคนไหนกัน และก็ต้นไม้นั้นรุกล้ำเขตบ้านของเพื่อนบ้านไหม หรือหากว่ามีก้านไม้ ก้านไม้อยู่ในบ้านของคุณแต่ว่าโครงสร้างรองรับของมันกลับอยู่ในเขตบ้านของเพื่อนบ้าน แม้คุณคิดจะตัดต้นไม้จะต้องแจ้งเพื่อนบ้านของคุณให้รู้ก่อน

     

     

    สนับสนุนเนื้อหาโดย  เครื่องช่วยฟังที่เสียงรบกวนน้อยที่สุด

  • ซาดิโอ มาเน่ ให้คำมั่นจะทำแบบนี้หากมีโอกาสดวลกับ ลิเวอร์พูล

    ซาดิโอ มาเน่ ให้คำมั่นจะทำแบบนี้หากมีโอกาสดวลกับ ลิเวอร์พูล

    ซาดิโอ มาเน่ ให้คำมั่น จะทำแบบนี้หากมีโอกาสดวลกับ ลิเวอร์พูล

    ซาดิโอ มาเน่  กองหน้าตัวใหม่ของสโมสร บาเยิร์น มิวนิค แสดงความมั่นใจและยืนยันว่าเขาพร้อมจะลงสนามช่วยต้นสังกัดใหม่เอาชนะอดีตทีมเก่าอย่าง ลิเวอร์พูล

    หากทั้งสองทีมมีโอกาสพบกันในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ โดยเจ้าตัวมุ่งมั่นและกระตือรือร้นที่จะสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมให้กับ บาเยิร์น มิวนิค หลังจากย้ายมาร่วมทีมจากลิเวอร์พูลเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

     

    มาเน่ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในนักเตะระดับโลกที่มีความสำเร็จมากมายกับลิเวอร์พูล ตัดสินใจยุติการค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์หลังจากใช้เวลา 6 ปีร่วมกับสโมสร

    เขาคือกำลังสำคัญที่ช่วยให้ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ โดยการย้ายทีมในครั้งนี้ ทำให้หลายฝ่ายจับตามองว่าเขาจะสามารถนำความสำเร็จมาสู่ บาเยิร์น มิวนิค ได้เหมือนที่เคยทำกับลิเวอร์พูลหรือไม่  

     

    ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ มาเน่ ยอมรับว่าเขายังคงมีความทรงจำดีๆ กับลิเวอร์พูล และขอบคุณสโมสรที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตค้าแข้งของเขา

    อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามถึงโอกาสที่อาจต้องดวลกับลิเวอร์พูลในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาเน่ตอบอย่างมั่นใจว่า เขาจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้บาเยิร์น มิวนิคเก็บชัยชนะเหนือทีมเก่าให้ได้  

     

    การย้ายมาร่วมทีมบาเยิร์น มิวนิค ของมาเน่ถือว่าเป็นการเสริมทัพที่สำคัญสำหรับทีมแชมป์บุนเดสลีกา เนื่องจากบาเยิร์นต้องการผู้เล่นที่มีประสบการณ์และความสามารถในการทำประตูในเวทียุโรป

    มาเน่จึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ ด้วยความเร็ว ความแข็งแกร่ง และสัญชาตญาณการทำประตูที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขากลายเป็นความหวังใหม่ของแฟนบอลบาเยิร์นในทันที  

     

    มาเน่เปิดตัวกับบาเยิร์น มิวนิคได้อย่างยอดเยี่ยม โดยสามารถทำประตูในเกมอย่างเป็นทางการได้ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล

    เขาแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสไตล์การเล่นของทีมใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับบาเยิร์นในการลุยศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก  

     

    การพบกันระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค และ ลิเวอร์พูล ในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ย่อมเป็นหนึ่งในแมตช์ที่แฟนบอลทั่วโลกรอคอย เพราะทั้งสองทีมต่างเป็นสโมสรชั้นนำของยุโรป และเต็มไปด้วยผู้เล่นระดับโลก อีกทั้งการที่มาเน่ต้องเผชิญหน้ากับอดีตต้นสังกัด ยิ่งทำให้การแข่งขันครั้งนี้น่าจับตามองเป็นพิเศษ  

     

    แม้ว่าเขาจะเคยเป็นฮีโร่ของลิเวอร์พูล แต่เมื่อเสียงนกหวีดเริ่มต้นการแข่งขัน มาเน่จะทุ่มเทเต็มร้อยเพื่อช่วยให้บาเยิร์น มิวนิค ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายของสโมสร โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเป็นถ้วยที่ทุกสโมสรในยุโรปปรารถนา  

     

    สนับสนุนเนื้อหาโดย  เครื่องช่วยฟังฟรี
  • หญิงท้องอืดเป็นเดือน อาหารไม่ย่อย สุดท้ายโคม่า

    หญิงท้องอืดเป็นเดือน อาหารไม่ย่อย สุดท้ายโคม่า

    หญิงท้องอืดเป็นเดือน อาหารไม่ย่อย สุดท้ายโคม่า – ถูกตัดกระเพาะ เตือนใจสายกินจุ

    เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 มีการเปิดเผยเคสสุดช็อกจากประเทศจีนเกี่ยวกับหญิงวัย 41 ปี ชื่อ จาง ซึ่งอาศัยอยู่ในมณฑลเจียงซู เรื่องราวของเธอกลายเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผู้ที่ชอบกินจุจนเกินพอดี โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ระมัดระวังในการดูแลสุขภาพระบบทางเดินอาหาร

     

    จางเป็นคนที่รักการกินเป็นชีวิตจิตใจ เธอมักเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารปริมาณมาก และทำเช่นนี้เป็นประจำจนกลายเป็นนิสัยติดตัวมาหลายปี ด้วยความที่เธอชอบกินมากเกินไป

    ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา จางเริ่มมีอาการผิดปกติทางร่างกาย โดยเฉพาะอาการท้องอืด ซึ่งเริ่มต้นเมื่อประมาณ 1 เดือนก่อน

    อาการดูเหมือนจะเป็นเพียงอาการปกติของระบบย่อยอาหารที่ผิดปกติชั่วคราว อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป 2 สัปดาห์ อาการของเธอก็ทวีความรุนแรงขึ้น

     

    จางเริ่มมีอาการท้องอืดหนักขึ้นอย่างชัดเจน จนถึงขั้นอาเจียนบ่อยครั้ง เธอรู้สึกแน่นท้องตลอดเวลา และไม่สามารถรับประทานอาหารได้เหมือนเดิม ครอบครัวของเธอเริ่มรู้สึกกังวลและตัดสินใจพาเธอไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลในมณฑลเจียงซู เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย

     

    เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ทีมแพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายของจางอย่างละเอียด และพบความผิดปกติที่น่าตกใจ

    กระเพาะอาหารของเธอขยายตัวผิดปกติและมีอาการอุดตันบางส่วน ส่งผลให้กระเพาะไม่สามารถย่อยอาหารได้ตามปกติ ส่งผลให้อาหารที่รับประทานเข้าไปค้างอยู่ในกระเพาะเป็นเวลานาน

    ก่อให้เกิดอาการอักเสบและติดเชื้ออย่างรุนแรง ซึ่งอาการของเธอเข้าขั้นวิกฤตและอยู่ในภาวะโคม่า ทีมแพทย์จึงต้องรีบทำการผ่าตัดฉุกเฉินเพื่อรักษาชีวิตของเธอ

     

    ในการผ่าตัดครั้งนี้ ทีมแพทย์ตัดสินใจทำการตัดกระเพาะอาหารบางส่วนออก เพื่อหยุดการอักเสบและกำจัดเนื้อเยื่อที่เสียหาย

    ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยให้เธอรอดชีวิตได้ การผ่าตัดเป็นไปอย่างยากลำบากและใช้เวลานานหลายชั่วโมง หลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้น จางถูกส่งตัวไปพักฟื้นในห้องไอซียู และอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์

     

    หลังจากการผ่าตัด จางฟื้นตัวได้ช้า และเธอต้องปรับตัวอย่างมากในการใช้ชีวิตใหม่ เพราะการตัดกระเพาะอาหารส่งผลให้เธอไม่สามารถรับประทานอาหารได้ในปริมาณมากเหมือนเดิมอีกต่อไป

    เธอต้องเรียนรู้วิธีการรับประทานอาหารทีละน้อย และเลือกอาหารที่ย่อยง่าย รวมถึงต้องระวังเรื่องโภชนาการมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้อาการดังกล่าวกลับมาอีก

     

    เรื่องราวของจางกลายเป็นบทเรียนสำคัญที่เตือนใจผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ชอบกินอาหารปริมาณมากเกินไปอย่างขาดการยั้งคิด พฤติกรรมการกินจุอาจนำมา

    ซึ่งความเสี่ยงต่อสุขภาพระบบย่อยอาหารอย่างรุนแรง หากไม่มีการดูแลที่เหมาะสม อาจนำไปสู่โรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง หรือกรณีร้ายแรงเช่นที่เกิดกับจาง ซึ่งต้องสูญเสียกระเพาะอาหารบางส่วนไป

     

    แพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่า การกินอาหารในปริมาณที่เหมาะสม และการหลีกเลี่ยงการกินจุเป็นสิ่งสำคัญต่อการดูแลสุขภาพระยะยาว นอกจากนี้ การหมั่นตรวจสุขภาพระบบทางเดินอาหารอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้สามารถป้องกันปัญหาทางสุขภาพร้ายแรงได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น

     

    เรื่องราวของจางเป็นอุทาหรณ์สำคัญสำหรับสายกินจุและคนที่ละเลยสุขภาพ อย่ารอให้ร่างกายเตือนคุณในวันที่สายเกินไป เพราะสุขภาพดีเริ่มต้นจากการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอในวันนี้

     

     

    สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก
  • แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเมือง เชสเก บูเดยอวิช (České Budějovice) ประเทศ สาธารณรัฐเช็ก

    แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเมือง เชสเก บูเดยอวิช (České Budějovice) ประเทศ สาธารณรัฐเช็ก

    เชสเก บูเดยอวิช (České Budějovice) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเซาท์โบฮีเมียของสาธารณรัฐเช็ก มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติสาตร์ที่น่าสนใจหลายแห่งที่ 

    สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น 

    1. ทะเลสาบลิปโน (Lipno Dam):

       – ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเชสเก บูเดยอวิช ที่นี่มีทั้งกิจกรรมทางน้ำ เช่น การเล่นเรือ การตกปลา และการว่ายน้ำ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่าและจักรยานรอบ ๆ ทะเลสาบ

     

    1. อุทยานธรรมชาติบลานสกี้ เลส (Blanský les Nature Park):

       – พื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ มีเส้นทางเดินป่ามากมายและจุดชมวิวที่สวยงาม เช่น ภูเขา Klet ซึ่งมีหอคอยชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล

     

    1. แม่น้ำ Vltava:

       – แม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านเมือง คุณสามารถล่องเรือ หรือเพลิดเพลินกับการเดินเล่นริมแม่น้ำ ซึ่งจะให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสวยงาม

     

    1. อุทยานแห่งชาติซูมา (Šumava National Park):

       – ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเชสเก บูเดยอวิช ที่นี่เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในเช็ก มีป่าไม้เขียวขจี ทะเลสาบธรรมชาติ และเส้นทางเดินป่าที่หลากหลาย

     

    1. สวนปราสาท Hluboká:

       – สวนที่อยู่ในบริเวณปราสาท Hluboká nad Vltavou ซึ่งเป็นหนึ่งในปราสาทที่สวยงามที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก บริเวณสวนนี้มีพื้นที่กว้างขวางและสวยงาม เหมาะสำหรับการเดินเล่นและพักผ่อน

     

    สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในเมืองนี้:

    1. จัตุรัส Přemysl Otakar II Square: จัตุรัสกลางเมืองที่เป็นที่ตั้งของศาลากลางเมืองและอาคารประวัติศาสตร์หลายแห่ง จัตุรัสนี้ถือเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์สูง
    2. ศาลากลางเมือง (Town Hall): อาคารสไตล์บาโรกที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมือง มีหอระฆังที่สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองได้
    3. หอคอยดำ (Černá věž): หอคอยสูงที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง เป็นสถานที่ที่สามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของเมืองได้
    4. มหาวิหารเซนต์นิโคลัส (Cathedral of St. Nicholas): มหาวิหารโกธิคที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
    5. โรงเบียร์บูดวาร์ (Budweiser Budvar Brewery): โรงเบียร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 1895 มีการจัดทัวร์ชมกระบวนการผลิตเบียร์และสามารถชิมเบียร์สดได้
    6. ป้อมปราการเมซดีเซ (Město): ป้อมปราการเก่าแก่ที่ตั้งอยู่รอบเมือง สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เพื่อป้องกันการโจมตีจากศัตรู ปัจจุบันบางส่วนของป้อมยังคงเหลืออยู่และเป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
    7. พิพิธภัณฑ์ภูมิภาคเซาท์โบฮีเมียน (South Bohemian Museum): พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมสิ่งของทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของแคว้นโบฮีเมียใต้ มีการจัดแสดงนิทรรศการที่หลากหลาย
    8. บ้านเก่าคอทลูร (Kotlářská) House: อาคารประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า มีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์

     

    สนับสนุนโดย   เครื่องช่วยฟัง
  • ตำนาน และความเชื่อ  ผีและวิญาณ ปริศนาโลก

    ตำนาน และความเชื่อ  ผีและวิญาณ ปริศนาโลก

    ตำนาน และความเชื่อ  ผีและวิญาณ ปริศนาโลกที่ถูกไขได้แล้ว แต่คุณอาจไม่เคยรู้

     

    เรื่องราวเกี่ยวกับผีและวิญญาณเป็นหัวข้อที่น่าสนใจและถกเถียงกันมานานในทุกวัฒนธรรมทั่วโลก มนุษย์มีความเชื่อในเรื่องนี้มาเป็นพันปี

    หลายคนเชื่อว่าผีคือดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิต ซึ่งยังไม่ได้ไปสู่อีกภพหรือยังมีบางสิ่งที่ค้างคาในโลกนี้ แต่ในยุคที่วิทยาศาสตร์ก้าวหน้า บางปริศนาเกี่ยวกับผีและวิญญาณก็ถูกไขออกมาแล้ว แม้ว่าหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน 

     

    ปรากฏการณ์ผีและวิทยาศาสตร์

    หนึ่งในเรื่องที่ถูกกล่าวถึงบ่อยคือการเห็น “เงาหรือร่างผี” ที่ถูกบันทึกไว้จากผู้คนจำนวนมากทั่วโลก วิทยาศาสตร์อธิบายว่า ปรากฏการณ์นี้อาจเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียกว่า “ภาพหลอนจากการนอนหลับ” (sleep paralysis) หรือ “การหลอนทางประสาทสัมผัส”

    ซึ่งเกิดจากสมองที่ยังไม่ปิดการรับรู้เต็มที่ขณะหลับหรือตื่น ทำให้เกิดภาพหรือความรู้สึกที่ไม่เป็นจริง 

     

    นอกจากนี้ การได้ยินเสียงแปลกๆ เช่น เสียงกระซิบ หรือเสียงเคาะในบ้านที่หลายคนเชื่อว่าเป็นผีมาสื่อสารกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็สามารถอธิบายได้จาก “ปรากฏการณ์ทางเสียง” (auditory phenomena)

    ซึ่งเกิดจากสภาวะแวดล้อม เช่น การสะท้อนของเสียงในพื้นที่แคบ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ หรือแม้แต่ปัญหาสุขภาพของหู

     

     

     ความรู้สึกเย็นวาบในสถานที่หลอน

    หนึ่งในปริศนาที่หลายคนเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการมีผีคือ “ความรู้สึกเย็นวาบ” ในบริเวณที่มีคนตายหรือสถานที่ที่มีประวัติถูกหลอก วิทยาศาสตร์อธิบายว่านี่อาจเป็นผลมาจาก “การแลกเปลี่ยนความร้อน” (heat exchange) ของอากาศภายในอาคาร

    บางครั้งอากาศภายในอาคารมีการไหลเวียนไม่ดี ทำให้เกิดความแตกต่างของอุณหภูมิอย่างชัดเจนในบางจุด นอกจากนี้ ปัจจัยเช่นความชื้นและความกดอากาศยังส่งผลให้บางสถานที่ดูน่ากลัวและรู้สึกเย็นได้มากขึ้น

     

    ปรากฏการณ์แม่เหล็กไฟฟ้า

    อีกหนึ่งทฤษฎีที่วิทยาศาสตร์นำเสนอคือ “สนามแม่เหล็กไฟฟ้า” (electromagnetic fields – EMF) ที่อาจมีผลต่อการรับรู้ของมนุษย์ มีการศึกษาที่พบว่าคนที่อยู่ในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็กสูงอาจมีประสบการณ์เห็นภาพหลอน

    หรือความรู้สึกผิดปกติได้ ซึ่งเป็นไปได้ว่าสถานที่ที่ถูกกล่าวขานว่ามีผีอาจมีความผิดปกติของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าในบริเวณนั้น

     

     การตีความจากวัฒนธรรม

    แม้ว่าหลายสิ่งที่เคยเชื่อว่าเป็นผีหรือวิญญาณสามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ แต่ในหลายวัฒนธรรม ผียังถือเป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวัน มีการเล่าเรื่องผีจากประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับผู้คน

    และบางคนอาจพบกับสิ่งที่วิทยาศาสตร์ยังอธิบายไม่ได้ ความเชื่อเหล่านี้มักสร้างขึ้นจากประเพณีและวัฒนธรรมเฉพาะของแต่ละสังคม

     

    สรุป เครื่องช่วยฟัง แล้ว แม้ว่าบางปริศนาที่เกี่ยวกับผีและวิญญาณจะถูกไขออกมาได้แล้วในแง่มุมทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็ยังคงมีเรื่องราวที่เหลืออยู่ที่อาจจะยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน

    มนุษย์ยังคงค้นหาความหมายและคำอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว บางคนอาจยอมรับคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ ในขณะที่บางคนก็ยังคงเชื่อในสิ่งที่เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ