กำลังเป็นเรื่องราวที่สร้างความประทับใจให้กับคนในโซเชียลเมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่งเธอได้โพสต์เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเธอโดยเธอระบุว่าเธอเดินทางไปซื้อของที่ห้าง Big C โดยวันดังกล่าวนั้นเธอไปทำการเบิกเงินจากธนาคารที่อยู่ภายในห้างบิ๊กซีซึ่งมีจำนวนเงินทั้งสิ้น 300,000 บาทหลังจากที่เธอกดมาแล้วเธอได้แบ่งเงินจำนวน 150,000 บาท
เอาไปให้สามีของเธอนั้นจ่ายบัตรเครดิต ส่วนที่เหลืออีกเรื่องหนึ่งนั้นเธอเก็บไว้โดยเธอบอกว่าเธอต้องการที่จะเอาไปใช้ในเรื่องของการทำบุญเนื่องจากว่าใกล้ที่จะถึงครบกำหนดการทำบุญวันเสียชีวิตของพ่อและแม่ของเธอแล้วดังนั้นเธอจึงได้มีการมาเบิกเงินเพื่อเอาไปซื้อของโดยเธอตั้งใจที่จะไปซื้อของที่ห้าง Big C นี่เอง
อย่างไรก็ตามหลังจากที่เธอมีการแบ่งเงินกับสามีของเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้วเธออยากจะไปเข้าห้องน้ำจึงได้นำกระเป๋าเงินที่มีเงินอยู่ในจำนวน 150,000 บาทนั้นฝากไว้ที่สามีของเธอหลังจากนั้นเธอก็เดินทางไปเข้าห้องน้ำซึ่งเมื่อเธอทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอก็เดินทางออกมาที่รถทันทีโดยที่เธอนั้นไม่ได้มีการตรวจสอบกระเป๋าเงินให้เรียบร้อย
เมื่อขึ้นมาบนรถและขับรถออกจากบิ๊กซีเป็นที่เรียบร้อยแล้วปรากฏว่าเมื่อเธอดูกระเป๋าสตางค์ของเธอพบว่าเงินในกระเป๋าตังค์ซึ่งเป็นกระเป๋าใบเล็กนั้นหายไปหลังจากนั้นเธอจึงได้ขับรถย้อนกลับมาที่บิ๊กซีอีกครั้งหนึ่งและมาทำการติดต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อขอตรวจสอบดูกล้องวงจรปิด
แต่อย่างไรก็ตามยังไม่ทันได้มีการเปิดกล้องวงจรปิดดูทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็แจ้งกับเธอว่ามีแม่บ้านชาวพม่าคนหนึ่งได้เก็บกระเป๋าสตางค์ไว้ได้และได้นำมาฝากไว้ที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วทางเจ้าหน้าที่จึงยื่นกระเป๋าให้เธอตรวจสอบซึ่งมีเงินอยู่ในนั้นทั้งหมดครบ
เต็มจำนวนไม่ได้หายไปไหนเลยทำให้เธอเกิดความรู้สึกประทับใจกับการบริการของพนักงานห้างของบิ๊กซีเป็นอย่างมากที่มีความซื่อสัตย์สุจริตและไม่ได้ขโมยเงินของเธอไปแม้แต่ใบเดียวอย่างไรก็ตามเธอจึงได้นำเรื่องราวนี้ออกมาโพสต์ลงบนโลกออนไลน์เพื่อหวังที่จะแสดงความชื่นชมให้กับพนักงานที่ทำความดีในครั้งนี้
เพราะเธอคิดว่าเงินจำนวนมากมายขนาดนั้นหากใครเก็บไปก็คงไม่มีใครเอามาคืนอย่างแน่นอนแต่โชคดีอย่างมากที่มีพลเมืองดีที่เป็นแม่บ้านสามารถเก็บกระเป๋าเงินของเธอได้และนำมาส่งคืนเธอในที่สุด
สนับสนุนโดย next88