สำหรับในอดีตชาติที่ได้ผ่านมา ที่มันได้มีเรื่องราวทางด้านวิทยาศาสตร์ที่กำลังจะไขปริศนาแต่มันก็ไม่สามารถที่จะหาบทสรุปให้ได้อย่างชัดเจน จึงทำได้แต่เพียงสมมุติฐานเอาไปต่างๆนานาที่ดำลังจะหาคำตอบจากสิ่งเหล่านี้เพื่อจะทำให้มันได้ปรากฏการณ์หลายๆอย่างที่มันได้อยู่บนพื้นโลกแห่งนี้เหมือนกันและยังไม่มีอะไรที่จะมาอธิบายได้อย่างชัดเจนแม้แต่ทางวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่มีคำตอบและวันนี้เราจะมาพูดถึงปรากฏการณ์ที่ทางวิทยาศาสตร์ไม่สามารถที่จะตอบได้
Taos Hum
เป็นระยะเวลาหลายร้อยปีที่ผู้คนชาวเมืองTaos Humที่ได้เป็นเมืองขนาดเล็กที่ได้อยู่ทางด้านของตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอเมริกาที่ได้ยินเสียงความถี่ต่ำที่ฟังดูแล้วมันเหมือนคล้ายกับเสียงเครื่องบินที่มันมีขนาดใหญ่โดยที่ไม่รู้เลยว่าที่ไปที่มานั้นมันได้เกิดจากอะไรกันแน่ เพราะโดยรอบเมืองแห่งนี้มันก็ไม่ได้มีถนนหลวงใดๆที่อยู่ในเมืองนี้ทั้งสิ้น เสียงลึกลับนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยและมักจะทำให้ผู้คนนั้นที่ได้ยินเสียงมันเกิดอาการทางจิตและนำไปสู่การฆ่าตัวตายและในขณะที่ชาวบ้านบางคนนั้นได้เชื่อว่ามันได้เป็นรางที่บอกเหตุของความโชคร้ายและในปีประมาณ1977นั้นก็ได้มีการเข้าไปตรวจสอบโดยตรงทางด้านวิทยาศาสตร์จากสถาบันที่ได้มีชื่อเสียงในประเทศอเมริกา โดยได้ทำการสำรวจและวัตคลื่นความถี่ของเสียงปริศนาในท้องที่และโดยรอบๆเมืองก็ได้พบเสียงเบาๆนี่มีความถี่ของเสียงประมาณ30-80เฮิรตซ์
แต่มันก็น่าเหลือเชื่อตรงที่เสียงปริศนานี้มันได้ใช่ในทุกๆคนนั้นที่จะได้ยินแต่ได้มีบางคนที่จะได้ยินเสียงนี้เท่านั้น โดยจากสถิติแล้วได้พบคนชาวเมืองTaos Humที่จะได้ยินเสียงนี้เพียงแค่ประมาณ2%และที่สุดแล้วมันก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ชี้ชัด สำหรับเสียงที่เป็นปริศนานี้มันจึงกลายเป็นเรื่องลึกลับที่มันยังหาคนตอบกันไม่ได้มาจนถึงทุกวันนี้
Deja vu
สำหรับคำว่าDeja vuเป็นคำภาษาฝรั่งเศษที่แปลกว่าเคยเห็นแล้ว ซึ่งมันคือความรู้ซึ่งแปลกๆที่ทำให้เรานั้นคิดว่าเราเคยเจอหรือเคยผ่านประสบการณ์แบบนี้มาแล้ว ถึงแม้ว่าDeja vuนั้นจะถูกจัดให้เป็นอาการของทางจิตแต่ในหลายๆครั้งมันกลับพบว่าผู้ที่ได้ประสบการณ์แบบDeja vuและที่จะจำเหตุการณ์ที่มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วได้อย่างแม่นยำมันจนได้กลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถระบุได้เลย เพียงแค่มันจะมีทิศดีที่ได้มีการสันนิษฐานเอาว่ามันอาจจะเป็นเรื่องของอดีตชาติด้านพลังจิตโลกของคู่ขนาดหรือแม้แต่ของอาการที่คิดไปเอง